ในปีต่อมา พ.ศ. ๒๔๔๖ เจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช เจ้าเมืองน่าน ได้ขอย้ายเจ้าราชบุตรไปรับราชการที่เมืองน่าน และขอรับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นเจ้าราชดนัย อันเป็นตำแหน่งใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงเห็นชอบด้วย
เมื่อพิจารณา สาเหตุกบฏเงี้ยวเมืองแพร่ อาจแบ่งได้เป็น ๒ ประการ คือ
ประการแรก เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองภายในเมืองแพร่นับตั้งแต่ช่วงจัดการ ปกครองแบบเทศาภิบาล ซึ่งเป็นตอนที่รัฐบาลยุบเลิกฐานะเมืองประเทศราชและรวมอำนาจเข้าสู่ ส่วนกลาง ดังจะเห็นได้ว่าฐานะทางการเมืองนั้น เจ้าเมืองมีแต่เกียรติยศ ไม่มีอำนาจอย่างแท้จริง เพราะอำนาจสิทธิขาดตกเป็นของข้าหลวง ซึ่งเป็นข้าราชการที่ส่งมาจากส่วนกลาง
ในทางด้านเศรษฐกิจก็ถูกตัดทอนผลประโยชน์ลงสร้างความไม่พอใจแก่เจ้าเมือง และ เจ้านายบุตรหลานทั้งหลายในแต่ละเมือง จึงปรากฏปฏิกิริยาออกมาในลักษณะต่างๆ กัน เช่นที่เชียงใหม่เจ้านายบุตรหลานไม่พอใจเรื่องลดผลประโยชน์เป็นอันมาก เมืองแพร่ตกอยู่ในสภาพลำบาก เนื่องจากในช่วงที่พระยาศรีสหเทพ (เส็ง วิรยศิริ) ปฏิรูปการปกครอง พ.ศ. ๒๔๔๒ ได้จัดการอย่าง รุนแรงและบีบบังคับยิ่งกว่าเมืองอื่นๆ โดยไม่คำนึงถึงว่าเมืองแพร่เพิ่งจะจัดการปกครองเป็นครั้งแรก พ.ศ. ๒๔๓๗
ในครั้งนั้น ด้านการคลังพระยาทรงสุรเดชยังผ่อนปรน ไม่ได้แบ่งเงินผลประโยชน์ของ เจ้าเมืองออกจากเงินแผ่นดิน ดังนั้น เจ้าพิริยเทพวงศ์จึงเก็บรักษาเงินปนกันหมด และนำเงินหลวงมาจ่ายในกิจการป่าไม้ของตนก่อน โดยเข้าใจว่าเป็นเงินของตน เมื่อพระยาศรีสหเทพตรวจสอบการเงินก็พบว่าเงินหลวงขาดไป จึงสั่งกักขังเจ้าเมืองแพร่ไว้จนกว่าจะหาเงินมาชดใช้ให้ครบภายใน ๒๔ ชั่วโมง เจ้านายบุตรหลานต้องหาเงินมาชดใช้จนครบ เจ้าเมืองแพร่จึงได้รับการปล่อยตัว
นับเป็นการกระทำที่บีบคั้นจิตใจและไม่ให้เกียรติกัน นอกจากนั้นยังกำหนดอัตราการใช้จ่ายเงินของเจ้าเมืองแพร่ไม่ให้จ่ายฟุ่มเฟือย เพราะฐานะทางเศรษฐกิจตกต่ำ จนกระทั่งกำหนดให้ใช้เงินเพียงเดือนละ ๒,๐๐๐.- บาท และจะต้องขอยืมจากท้องพระคลังก่อน
ประการที่สอง เนื่องจากเงี้ยวชาวเมืองและราษฎรพื้นเมืองให้การสนับสนุนกองโจรเงี้ยว การโจมตีเมืองแพร่ มิใช่มีแต่บรรดาเจ้านายเมืองแพร่เท่านั้นที่สนับสนุนพวกโจรเงี้ยว ชาวเมืองก็จับอาวุธขึ้นช่วยพวกกองโจรเงี้ยวด้วย ทั้งนี้ มีสาเหตุสืบเนื่องมาจากชาวเงี้ยวซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยจาก รัฐฉานเข้ามาอาศัยกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปในมณฑลพายัพเป็นเวลานานแล้ว พวกเงี้ยวส่วนใหญ่มักเป็นผู้ทำมาหากินตามปกติและปะปนอยู่กับชาวบ้านเมืองแพร่ ทำให้มีความสนิทสนมกันเป็นอันดี เมื่อเกิดความทุกข์ยากลำบากใจจึงร่วมมือสนับสนุนทันที
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
บทความที่ได้รับความนิยม
-
ภาพเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุง สองภาพแรกภาพเจ้าก้อนแก้วอินแถลงกับราชบุตร ซึ่งเจ้าฟ้าองค์นี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้พม่าประกาศอิสระภาพจากอังกฤษตามสนธิสั...
-
พระเจ้าทิพย์ช้างสุลวะฤาไชยสงคราม ปฐมราชวงค์ ทิพยจักร์ เจ้าพระยาสุลวฤาไชยสงคราม หรือ พ่อเจ้าทิพย์ช้าง มีนามเดิมว่า “ทิพย์จักร” หรือ “หนานทิ...
-
น้ำบ่อ หมายถึง บ่อน้ำสำหรับดื่มกินหรือใช้ และเนื่องจากน้ำมีความสำคัญต่อชีวิต ซึ่งมีวิธีปฏิบัติในการขุด การสร้าง การใช้ การรักษาตลอดจนพิ...
-
ในวาระ : พะเยายุคสร้างเมือง 1 ศักดิ์ ส.รัตนชัย เปิดประเด็นข่าวประวัติศาสตร์ต้องวิเคราะห์ใหม่ ราชวงศ์ลวจังกราช กับข่าวการเสวนาวิชาการ ณ พิพิธ...
-
ดิอิมพอสสิเบิ้ลส์ หนึ่งในตำนานเพลงไทย “ถ้าฉันมีสิบหน้า อย่างทศกัณฐ์ สิบหน้านั้น ฉันจะหัน มายิ้มให้เธอ สิบลิ้น สิบปาก จะฝากคำพร่ำเพ้อ ว่าร...
-
จดหมายเหตุ การปฎิบัติราชการในสงครามมหาเอเซียบูรพา บันทึกจดหมายเหตุของ คุณฉบับ ชูจิตารมย์ ซึ่งเขียนขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๗ ปลายสงครามมหา...
-
ช้าวันใด บ้านไหนมีเสียงมีดกระทบเขียงดัง "ปก ๆๆๆ" ติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็เป็นอันที่แน่นอนว่าวันนั้น บ้านหลังน...
-
ตุง “ ตุง ” เป็นภาษาล้านนาใช้เรียก “ ธง ” ทุกชนิดว่า ตุง ไม่ว่าจะเป็นแบบผืนยาวๆ ผูกติดยอดเสาปล่อยชายห้อยลงมา หรือ แบบเป็นผืนสามเห...
-
ลงได้เป็นความเชื่อแล้ว ยากนักที่จะตัดสินว่าเป็นเรื่องถูกหรือผิด !! กรณีผ่าจ้างช้างเช่นเดียวกัน สายตาของคนนอกอาจจะมองว่า...
รู้จักกบฏเงี้ยวที่อาศัยอยู่บ้านแม่ต๋ำไหมคะ พอดีอยากได้ข้อมูลไปทำรายงานอ่ะค่ะ ไปหาที่ไหนก็ไม่เจอ ขอความอนุเคราะห์หน่อยนะคะ
ตอบลบ