#แปดเป็งคืออะไร ทำไมถึงเกี่ยวข้องกับพระเจ้ าตนหลวง
ประเพณีประจำปี ๘ เป็ง ไหว้สาป๋ารมีพระเจ้าตนหลวง คำว่า “แปดเป็ง” เป็นงานประเพณีนมัสการพระเจ ้าตนหลวง ซึ่งเป็นงานที่จัดว่ายิ่งให ญ่ที่สุดและสำคัญอย่างยิ่งข องจังหวัดพะเยา ซึ่งเมื่อถึงเทศกาลประเพณีด ังกล่าวผู้คนจากทั่วสารทิศเ ดินทางมาสู่จังหวัดพะเยาเพื ่อกราบนมัสการขอพรจากองค์พร ะและสร้างบารมีให้กับตนเองอ ย่างไม่ขาดสาย ผู้คนเบียดเสียดเดินกันไปมา มากมายทั้งผู้คนจากอำเภอต่าง ๆ ภายในจังหวัดพะเยาเอง และต่างจังหวัด เช่น ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย แม้ต่างประเทศ เช่น เชียงตุง พม่า สินสองปันนา จีนตอนใต้ เดินทางมาเพื่อแสวงบุญกันอย ่างล้นลาม แต่ด้วยเหตุการณ์ปัจจุบันทา งการของแต่ละประเทศเข้มงวดก ับประชาชนของตนจึงทำให้การเ ดินทางไม่สะดวกเหมือนอย่างใ นอดีต
ความหมายของแปดเป็ง
คำว่า “ แปดเป็ง ” นั้นเป็นภาษาพื้นเมืองของชา วล้านนาโดยแยกออกเป็นสองคำ คือ แปด กับคำว่า เป็ง คำว่า “ แปด ” ก็คือวันเพ็ญเดือน ๘ (เหนือ) ทางภาคกลางถือว่าเป็นเดือน ๖ ซึ่งการนับเดือน คนทางภาคเหนือโดยเฉพาะแถบล้ านนาจะนับเดือนไวกว่าคนทางภ าคกลางไปสองเดือน ดังนั้นพอถึงเดือน ๖ อันเป็นเดือนที่เสวยฤกษ์วิส าขะ หรือวันวิสาขบูชา (วันเพ็ญเดือน ๖ ) คนทางเหนือจึงถือว่าเป็นเดื อน ๘
ในเรื่องดังกล่าวมีผู้ได้วิ เคราะห์การนับเดือนไว้ว่า การนับวันเดือนปีของล้านนาต าม “ ปักกะตืน ” (มาจากคำว่า ปักษ์ หมายถึงข้างขึ้น ข้างแรม และ ทิน หมายถึง วัน) เป็นการนับตามจันทรคติ ส่วนของภาคกลาง (กรุงเทพฯ) นับตามสุริยคติซึ่งเรื่องนี ้มีตั้งแต่ไทเขิน ไทลื้อ ความเชื่อเรื่องฤกษ์ยามจะคล ้ายกับคนล้านนา
แต่การนับเวลาจะต่างกัน คือไทเขิน ไทลื้อ นับเดือนเร็วกว่าคนไทยกรุงเ ทพ ฯ ไป ๑ เดือน แต่ช้ากว่าคนล้านนาไป ๑ เดือน เช่น เดือน ๕ ของคนกรุงเทพ ฯ จะตรงกับเดือน ๖ ของไทเขิน ไทลื้อ และจะตรงกับเดือน ๗ ของไทล้านนา และอีกนัยหนึ่ง ไทล้านนานับเดือนก่อนคนกรุง เทพฯ ๒ เดือน เช่น เดือน ๘ ของไทล้านนาจะตรงกับเดือน ๖ ของคนกรุงเทพ ฯ และในการนับพุทธศักราชชาวไท ลื้อ ไทใหญ่จะนับเร็วกว่าชาวสยาม ๑ ปี เช่น จุลศักราช ๑๓๕๑ ไทยสยามจะนับเป็นพุทธศักราช ๒๕๓๒ แต่ไทเขิน ไทลื้อ ไทใหญ่จะนับเป็นพุทธศักราช ๒๕๓๓ เหมือนของพม่าและลังกา (วิมล ปิงเมืองเหล็ก , บทความ มปท. ๒๕...)
คำว่า “เป็ง” ก็คือคืนวันเพ็ญ หรือคืนที่พระจันทร์เต็มดวง นั้นเอง ซึ่งมีค่าแทนคำว่า วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ
เมื่อรวมสองคำเข้าด้วยกันว่ า “ แปดเป็ง” จึงมีความหมายว่า วันเพ็ญเดือน ๖ (๘ เหนือ) พระจันทร์เต็มดวงเสวยฤกษ์วิ สาขะ ขึ้น ๑๕ ค่ำ นั่นเอง
วันแปดเป็งหรือคือวิสาขบูชา
ความสำคัญของวันแปดเป็ง ก็คือ เป็นวันที่เราทราบกันดีว่าเ ป็นวันวิสาขบูชา [1] ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพานขององค์สมเด็จพระส ัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นวันที่ม หัศจรรย์และวันสำคัญที่สุดข องชาวโลก ทั้งนี้องค์การสหประชาชาติไ ด้ประกาศยกย่องและเชิดชูวัน วิสาขบูชาให้เป็นวันสำคัญขอ งโลกไปแล้วด้วย
ประสูติ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเ จ้าทรงประสูติ ณ สวนลุมพินีวัน แคว้นสักกะ ซึ่งอยู่ระหว่างเมืองกบิลพั สดุ์อันเป็นของพระเจ้าสุทโธ ทนะพระราชบิดากับเมืองเทวทห ะของพระนางสิริมหามายาพระรา ชมารดา ปัจจุบันอยู่ในบริเวณประเทศ เนปาล ชื่อเมืองลุมมิดเด เมื่อเช้าวันศุกร์ ปีจอ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ (๘ เหนือ) ก่อนพุทธศักราชได้ ๘๐ ปี
ตรัสรู้ เมื่อพระองค์ทรงเบื่อหน่ายต ่อทุกข์ในชีวิตแบบฆราวาสและ ต้องการแสวงหาความดับทุกข์จ ึงทรงออกผนวชด้วยวัย ๒๙ พรรษา ทรงศึกษาในสำนักครูอาจารย์ต ่าง ๆ มากมายและทรงใช้ความเพียรพย ายามหลากหลายวิธีการ แต่ไม่ได้ผลและยังไม่สามารถ ที่จะหลุดพ้นได้ ต่อมาพระองค์ทรงลองหันมาใช้ ทางสายกลางตามแบบมัชฌิมาปฏิ ปทา คือการฝึกปฏิบัติอบรมทางจิต และด้วยวิธีนี้เองพระองค์จึ งทรงสามารถใช้ความรู้ลงสู่ภ าคปฏิบัติ เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตั วรวมเป็นระยะเวลานานถึง ๖ ปี จนได้สำเร็จเป็นพระอนุตตระส ัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยการประก าศสัจจธรรมแห่งทฤษฎี หรือสูตรว่าความรู้แจ้งเห็น จริง “อริยสัจจ ๔” ในเวลาเช้ามืดของวันพุธขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ (๘ เป็ง) ปีระกา ก่อนพุทธศักราชได้ ๔๕ ปี ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ ปัจจุบันอยู่ในเขตเมืองพุทธ คยา แคว้นพิหาร ประเทศอินเดีย
ปรินิพพาน เมื่อพระองค์ ได้ทรงประกาศพระศาสนาให้ตั้ งมั่นดีแล้วเป็นระยะเวลาถึง ๔๕ พรรษา พระองค์ทรงตัดสินพระทัยที่จ ะปรินิพพานด้วยวัย ๘๐ พรรษา เมื่อวันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ (๘ เป็ง) ปีมะเส็ง ณ สาลวโนทยานของมัลลกษัตริย์ เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ ปัจจุบันอยู่ในเขตพื้นที่เม ืองกุสีนคร แคว้นอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย
แปดเป็งทำไมจึงมาผูกพันกับพ ระเจ้าตนหลวง
เราจะเห็นว่า วันแปดเป็ง เป็นวันสำคัญอย่างยิ่งด้วยเ หตุฉะนี้ ส่วนที่จะเชื่อมโยงผูกพันกั บพระเจ้าตนหลวงอย่างไรนั้น จะอาศัยเพียงว่าเป็นวันคล้า ยวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานขององค์สมเด็จพ ระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเดี ยวมิได้ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นวัดไหน ๆ ก็มีพระเจ้าตนหลวงกับประเพณ ี ๘ เป็งคงมีเต็มไปหมดเป็นแน่ แท้ที่จริงนั้นมีนัยยะสำคัญ ถึง ๕ ประการ ดังนี้
๑.วันเริ่มโยนหินถมหนองเอี้ ยงก้อนแรก คือวัน ๘ เป็ง
ตามตำนานสองตายายได้หาวันดี ในการเริ่มถมหนองเอี้ยง วันแรกที่โยนลงไปนั้นตรงกับ วันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘ (เหนือ) ซึ่งบริเวณที่จะสร้างองค์พร ะนั้นเป็นหนองน้ำแต่เดิม ดินก็อ่อนตัว จึงจำเป็นที่จะต้องปรับถมสภ าพดินให้พื้นที่ดังกล่าวเสม อกันก่อนซึ่งตามตำนานต้องใช ้เวลาในการถมถึง ๒ ปี ๗ เดือนจึงจะสามารถใช้การได้
๒.วันเริ่มก่อสร้างองค์พระเ จ้าตนหลวง คือวัน ๘ เป็ง
แม้ประวัติการเริ่มก่อสร้าง จะไม่ชัดเจน แต่ปีที่สร้างได้ระบุชัดเจน ว่า ๒๐๓๔ เป็นการสร้างที่มีการเตรียม การไว้อย่างดีมาก เช่น จำนวนอิฐที่จะใช้ก่อสร้าง, จำนวนวัสดุอุปกรณ์อื่น ๆ อีกมากมาย ดังได้กล่าวเอาไว้แล้ว
๓.วันที่สร้างองค์พระเจ้าตน หลวงเสร็จเรียบร้อย คือวัน ๘ เป็ง
การสร้างที่ใช้ระยะเวลายาวน านถึง ๓๓ ปี ผ่านเจ้าผู้ครองเมืองพะเยาถ ึง ๓ รุ่นแสดงให้เห็นถึงความยิ่ง ใหญ่ขององค์พระเจ้าตนหลวงที ่คนในสมัยโบราณสามารถสร้างส ิ่งที่มีขนาดใหญ่และมหัศจรร ย์ที่สุดในแถบถิ่นล้านนา
๔.วันเฉลิมฉลองครั้งแรก คือวัน ๘ เป็ง
ประวัติส่วนนี้ก็กล่าวเพียง ว่าเมื่อองค์พระเจ้าตนหลวงเ สร็จเรียบร้อยแล้วพญาเมืองต ู้ เจ้าผู้ครองเมืองพะเยาได้ส่ งสาสน์บอกพญาเมืองแก้วเจ้าเ มืองเชียงใหม่ให้ทรงทราบแล้ ว พระองค์ทรงปีติยินดีเป็นอย่ างมาก จึงสั่งสร้างพระวิหารให้เสร ็จภายใน ๒ ปีแล้วจึงเฉลิมฉลองพร้อมกับ องค์พระที่เดียว
๕.ประเพณีที่ชาวบ้านถือปฏิบ ัติเป็นประจำปี คือวันวิสาขบูชา หรือวัน ๘ เป็ง
สิ่งที่มีความสัมพันธ์กับพร ะเจ้าตนหลวงดังกล่าวมานั้นแ ม้ไม่ชัดเจนแต่ก็ประมาณได้จ ากพิธีกรรมที่กระทำสืบต่อกั นมาคือวันวิสาขบูชา วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ (๘ เหนือ) หรือวันแปดเป็งนั้นเอง แต่ข้อสังเกตมีว่าปีไหนมีอธ ิกมาส คือเดือน ๘ สองหน ทางวัดจะถือเอาเดือน ๘ หนแรกเป็นงานประเพณี ซึ่งยึดถือติดต่อกันมาหลายช ั่วอายุคนรวมปีปัจจุบัน ๕๑๔ (๒๕๔๘)
มีอะไรในงานประเพณี แปดเป็งนมัสการพระเจ้าตนหลว ง
เมื่อถึงวันสำคัญทางพระพุทธ ศาสนาซึ่งมักจะอยู่ในช่วงเด ือนพฤษภาคมของทุก ๆ ปี วันวิสาขบูชามาถึงทางวัดจะจ ัดให้มีงานเฉลิมฉลองเพื่อให ้ญาติโยมเข้ามากราบไหว้บูชา พระเจ้าตนหลวงเป็นระยะเวลาถ ึง ๑๐ วัน ๑๐ คืน และเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุ ดในรอบหนึ่งปีของทางจังหวัด พะเยาทีเดียว
ลักษณะงานโดยทั่วไปอาจแบ่งไ ด้เป็น ๓ ส่วนใหญ่ คือ
๑.เขตมณฑลพุทธศาสนพิธี จะประกอบไปด้วยบริเวณพระวิห าร และรอบศาลาราย จำนวนประมาณ ๒ ไร่ เขตพุทธศาสนพิธีนี้เป็นเรื่ องของกิจกรรมทางศาสนาและพิธ ีกรรม เป็นเรื่องของจิตวิญญาณจะมี ประชาชนทั่วไปหลั่งไหลกันมา กราบนมัสการพระเจ้าตนหลวง บ้างก็มานอนในพระวิหารหลวง บ้างก็นอนรอบศาลาราย เพื่อรอร่วมพิธีกรรมวันสุดท ้าย อันสะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบก ารดำเนินชีวิตอย่างวิถีพุทธ เน้นถึงพฤติกรรมของคนที่แสด งออกมาโดยยึดพระรัตนตรัยเป็ นที่พึ่ง
ทางวัดเองได้จัดให้มีกิจกรร มหลากหลายเริ่มตั้งแต่วันแร กของงานจัดให้มีการบูชาพระร ัตนตรัย, การสรงน้ำพระ, การตักบาตร ๑๐๘, การตักบาตรข้าวสาร, การบูชาพระประจำวันเกิด โดยจะมีพิธีกรรมอื่น ๆ อีกมากซึ่งตลอดงานจะมีพิธีก รได้แนะนำให้รู้จักขนบธรรมเ นียมประเพณีและวิธีการนมัสก ารพระเจ้าตนหลวง เมื่อถึงวันสำคัญ คือวันสุดท้ายของงาน หรือวัน ๘ เป็ง อันเป็นวันพระใหญ่ขึ้น ๑๕ ค่ำพระจันทร์วันเพ็ญ เริ่มตั้งแต่เช้าตรู่จะมีกา รทำบุญตักบาตร, ไหว้พระ,รับศีล, พระสงฆ์แสดงธรรมเทศนา, ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์, รับพร ฯลฯ
ส่วนตอนกลางวันก็มีการฝึกอบ รมวิปัสสนากัมมัฏฐาน ตอนบ่ายจะถวายจตุปัจจัยให้ก ับพระสงฆ์ที่มาจากวัดต่าง ๆ กลางคืนก็มีพิธีเวียนเทียน, สวดมนต์ตั๋น (เป็นภาษาพื้นเมือง หมายความว่าการสวดมนต์ยาว), มีพระธรรมเทศนา, การสวดเบิก ไปจนถึงรุ่งเช้าของอีกวันหน ึ่ง แต่ไม่ให้เกินตีห้า [3]
๒.เขตอารามิกชน จะประกอบไปด้วยบริเวณลานวัด ทั้งหมด คือเขตนอกศาลารายออกมาถึงแน วกำแพงวัด จำนวน ๗๐ กว่าไร่ เขตนี้เป็นเรื่องของการออกร ้านค้าขายเครื่องใช้ไม้สอยต ่าง ๆ จิปาถะตั้งแต่สินค้าพลาสติก , ถ้วยกระเบื้อง ฯลฯ ที่พ่อค้าแม่ค้าจะนำมานาน ๆ ทีจะมีสินค้าราคาถูกมาวางขา ยกันผู้คนก็เดินชม เดินซื้อกันไป สินค้าโดยมากก็เป็นเครื่องป ระดับตกแต่ง เสื้อผ้า เครื่องอุปโภคบริโภค หรือแม้แต่ยาสมุนไพร และที่ดูแล้วนึกถึงอดีตก็คื อ ได้มีพ่อค้าแม่ขายได้พากันน ำของมาขายแบบแบกดิน คือนั่งขายกับพื้นเหมือนอดี ต เช่น กระเทียม ผลไม้ ขนม แหนม เป็นต้น
เขตนี้เป็นเรื่องของวิถีชีว ิตที่ผูกพันกับชีวิตประจำวั นของชาวบ้านมากที่สุด คือกินเที่ยว พักผ่อน ต่อรองสินค้าซึ่งปี ๆ หนึ่งจะมีสินค้าแปลก ๆ ใหม่ ๆ มาวางขายกันเต็มไปหมด เรียกได้ว่าทุกตารางนิ้วมีร าคาก็ว่าได้
๓.เขตกิจกรรมบันเทิง จะเป็นบริเวณสนามหน้าวัดทั้ งหมดจำนวน ๑๘ ไร่ เขตนี้เป็นกิจกรรมการแสดงมโ หรสพต่าง ๆ มากมายทั้งชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน รถไต่ถัง มวย ภาพยนตร์ ดนตรี และการละเล่นต่าง ๆ อีกมากมาย กิจกรรมนี้เป็นการระดมผู้คน มาชุมนุมกันมิใช่น้อย ๆ
ลูกค้าส่วนมากจะเป็นพวกเด็ก ๆ และวัยรุ่น ที่ชักชวนพ่อแม่ปู่ย่าตายาย มาดูงาน ซึ่งว่ากันตามจริงแล้ววัดเป ็นสถานที่สนองต่อบุคคล ๓ วัย กล่าวคือ วัยต้นของชีวิต, วัยทำงาน, วัยผู้สูงอายุ โดยจะแยกอธิบาย ดังนี้
วัยต้นของชีวิต คือเด็กและวัยรุ่นเป็นวัยที ่ไม่ต้องการเหตุและผลมากมาย นัก มักชื่นชอบในเรื่องที่สนุกส นานรื่นเริง ดังนั้นเขตกิจกรรมบันเทิงที ่จัดนอกวัดหรือหน้าวัดซึ่งเ ป็นเรื่องของการละเล่นและถู กจริตของคนกลุ่มนี้เป็นอย่า งมาก อย่างน้อยแม้ไม่ลึกซึ้งในเร ื่องของธรรมะ แต่ก็ทำให้คนกลุ่มนี้ได้มาใ กล้ชิด ได้เห็นพิธีกรรม ได้มาไหว้พระ และได้มาเป็นเพื่อนผู้เฒ่าผ ู้แก่ เป็นต้น
วัยทำงาน คือผู้ใหญ่คนวัยทำงานทั้งหล ายที่ชีวิตกำลังวุ่นอยู่กับ หน้าที่การงานเป็นวัยที่กำล ังสร้างเนื้อสร้างตัว วัยนี้จะสนใจในเรื่องที่ใกล ้ตัวที่สุดคือเรื่องของการก ินอยู่-มีใช้ วัยนี้จะหาซื้อเครื่องอุปโภ คบริโภคของที่จำเป็นในชีวิต ประจำวัน , เรื่องศรัทธากับสิ่งที่ตอบแ ทน เช่น อ้อนวอน แสวงโชค เป็นต้น ถือว่าเป็นวัยที่มีเหตุผลมา กกว่ากลุ่มแรก
วัยสูงอายุ ผู้เฒ่าผู้แก่ โดยมากจะเน้นกิจกรรมในพระวิ หารเป็นส่วนใหญ่ซึ่งมีกิจกร รมที่ให้คุณค่าทางจิตใจมากก ว่า เพราะเป็นวัยที่ล่วงกาลผ่าน วัยมามากจึงทำให้เห็นสัจจะข องชีวิตหลายอย่าง จึงมุ่งถึงความดีสูงสุดและค วามสงบทางจิตใจมากขึ้น สามารถอดทนฟังและพยายามทำคว ามเข้าใจในสิ่งที่ลูกหลานบอ กว่าน่าเบื่อ, เข้าใจยาก เช่น ธรรมะบรรยาย, การสวดมนต์, การสวดเบิก เป็นต้น
ที่มา/
บุญนิธิจันทร์ตองไชยะวุฑฒิก ุล
พระครูโสภณปริยัติสุธี, รศ.ดร. ถิรธมฺโม
https://www.gotoknow.org/ posts/443833
*ปัจจุบันรูปแบบงานแปดเป็งเ ปลี่ยนไปจากเดิม ไม่มีเสน่ห์เหมือนครั้งในอด ีต เป็นไปตามยุคสมัย*แอดมิน
ประเพณีประจำปี ๘ เป็ง ไหว้สาป๋ารมีพระเจ้าตนหลวง คำว่า “แปดเป็ง” เป็นงานประเพณีนมัสการพระเจ
ความหมายของแปดเป็ง
คำว่า “ แปดเป็ง ” นั้นเป็นภาษาพื้นเมืองของชา
ในเรื่องดังกล่าวมีผู้ได้วิ
แต่การนับเวลาจะต่างกัน คือไทเขิน ไทลื้อ นับเดือนเร็วกว่าคนไทยกรุงเ
คำว่า “เป็ง” ก็คือคืนวันเพ็ญ หรือคืนที่พระจันทร์เต็มดวง
เมื่อรวมสองคำเข้าด้วยกันว่
วันแปดเป็งหรือคือวิสาขบูชา
ความสำคัญของวันแปดเป็ง ก็คือ เป็นวันที่เราทราบกันดีว่าเ
ประสูติ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเ
ตรัสรู้ เมื่อพระองค์ทรงเบื่อหน่ายต
ปรินิพพาน เมื่อพระองค์ ได้ทรงประกาศพระศาสนาให้ตั้
แปดเป็งทำไมจึงมาผูกพันกับพ
เราจะเห็นว่า วันแปดเป็ง เป็นวันสำคัญอย่างยิ่งด้วยเ
๑.วันเริ่มโยนหินถมหนองเอี้
ตามตำนานสองตายายได้หาวันดี
๒.วันเริ่มก่อสร้างองค์พระเ
แม้ประวัติการเริ่มก่อสร้าง
๓.วันที่สร้างองค์พระเจ้าตน
การสร้างที่ใช้ระยะเวลายาวน
๔.วันเฉลิมฉลองครั้งแรก คือวัน ๘ เป็ง
ประวัติส่วนนี้ก็กล่าวเพียง
๕.ประเพณีที่ชาวบ้านถือปฏิบ
สิ่งที่มีความสัมพันธ์กับพร
มีอะไรในงานประเพณี แปดเป็งนมัสการพระเจ้าตนหลว
เมื่อถึงวันสำคัญทางพระพุทธ
ลักษณะงานโดยทั่วไปอาจแบ่งไ
๑.เขตมณฑลพุทธศาสนพิธี จะประกอบไปด้วยบริเวณพระวิห
ทางวัดเองได้จัดให้มีกิจกรร
ส่วนตอนกลางวันก็มีการฝึกอบ
๒.เขตอารามิกชน จะประกอบไปด้วยบริเวณลานวัด
เขตนี้เป็นเรื่องของวิถีชีว
๓.เขตกิจกรรมบันเทิง จะเป็นบริเวณสนามหน้าวัดทั้
ลูกค้าส่วนมากจะเป็นพวกเด็ก
วัยต้นของชีวิต คือเด็กและวัยรุ่นเป็นวัยที
วัยทำงาน คือผู้ใหญ่คนวัยทำงานทั้งหล
วัยสูงอายุ ผู้เฒ่าผู้แก่ โดยมากจะเน้นกิจกรรมในพระวิ
ที่มา/
บุญนิธิจันทร์ตองไชยะวุฑฒิก
พระครูโสภณปริยัติสุธี, รศ.ดร. ถิรธมฺโม
https://www.gotoknow.org/
*ปัจจุบันรูปแบบงานแปดเป็งเ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น