จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

บทความที่ได้รับความนิยม

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ตุงใจ

แต่เดิมตุงน่าจะออกเสียงว่าตง เพราะในศิลาจารึกวัดพระยืนที่กล่าวถึงการต้อนรับพระมหาสุมนะเขียนว่า "ทง" ดังข้อความว่า
"…ให้ถือช่อทง เข้าตอกดอกไม้ไต้เทียน ตีพาดดัง พิณ ค้อง กลอง…"

ถ้าไม่ออกเสียงว่า ตง ก็น่าจะออกเสียงว่า ทง นั่นเอง รูปคำทางเสียงดูน่าใกล้เคียงกับคำว่า ธง ในภาษาไทยกลางมาก ดูห่างจากตะข่อนในภาษาไทใหญ่ หรือตำข่อนในภาษาพม่ามากมาย

ในทางรูปคำ ล้านนาอาจไม่เอาคำนี้มาจากไทใหญ่หรือพม่า

ในทางหน้าที่ใช้สอย อาจรับมา แต่ก็ยังไม่แน่อีกเช่นกัน
เราจะทิ้งเรื่องวิชาการไว้ตรงนี้ก่อน มีงานเขียนเรื่องตุงอยู่ในสารานุกรมวัฒนธรรมไทยภาคเหนือ ู้อ่านที่อยากรู้ลึกให้ไปเปิดอ่านเอาเองก็แล้วกัน

ตุงเป็นของดีใกล้ตัว เป็นของดีของงามบ้านเฮาที่ควรหวงแหนรักษาไว้ ตุงมีหน้าที่หรือมีประโยชน์ใช้สอยมากมายหลายอย่าง จำแนกประเภทออกได้มากมายหลายอย่าง ที่เอารูปมาลงให้ดูแต่ไม่สามารถจะเก็บภาพได้เต็มผืนรูปนี้เรียกว่า ตุงไจ (ตัวเขียนจะเขียนว่า ทุงไชย ตรงกับธงชัย ในภาคกลาง) บางทีก็เรียกว่า ตุงใย

ตุงไจใช้แขวนปลายเสาไม้ไผ่ แล้วเอาไปปักขนาบเรียงรายสองข้างทาง อยู่เปล่าอยู่ดาย ไม่มีปอยม่วนงันสันเล้า ไม่มีใครเอาตุงไจไปปักหรอก จะปักแขวนสูง พยุงยกค้าง กลางเปล่งกว้างลมทอ…ก็ต่อเมื่อมีปอยหลวง เวลาเราไปตามบ้านนอก จะเห็นตุงไจปักขนาบสองข้างทาง พึงรู้เถอะว่าหมู่บ้านนั้นๆ มีปอยหลวง เขาจะแต่งแต่ปากทางเข้าหมู่บ้านไปถึงประตูวัดเหนือในวัดโน่น ปอยหลวงผ่านไปแล้วก็ไม่รื้อออกง่ายๆ หรอก มักจะปล่อยทิ้งไว้ ฟ้ามาฝนมา ลมและฝนจะค่อยปลิดผืนตุงลงจากเสาค้าง

แต่เดิมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมกินง่ายจ่ายโอ่ย (สุร่ยสุร่าย) กันอย่างนี้ ตุงไจผืนหนึ่งกว่าจะประดิษฐ์ ตกแต่งจนแล้วเสร็จต้องใช้เวลาและแรงงานมากมาย แต่เอามาใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเลยถือว่าไม่คุ้ม น่าจะปลดลงมาพบทบใส่ก้นหีบ เก็บไว้ใช้ได้อีกในคราวหน้าและคราวต่อไป

เพิ่งมาเข้าใจเมื่อไม่นานนี่เอง เมื่อพ่อน้อย สิงห์แก้ว มโนเพชร พูดในวงเสวนาอะไรสักอย่าง พ่อน้อยพูดว่า ลูกผู้ชายข้าวนึ่งแต่ก่อนมักแรนรอมห่างเรือนเป็นเดือนเป็นปี ไปค้าขายบ้าง ไปเป็นลูกจ้างต่างแดนบ้าง ไปเสาะหาวิชาความรู้บ้าง

ลูกแม่ระมิงค์ ลูกแม่อิง แม่กก แม่วัง แม่วาง ลูกแม่ยม แม่น่าน แม่ส้าน แม่สูน…ลูกอีแม่ทั้งหลายจะไปจากเรือน เมื่อได้ข้าวขึ้นยุ้ง ตีเสียว่าราวเดือนห้า หรือราวเดือนกุมภาพันธ์ อาจกลับบ้านครั้งหนึ่งช่วงปีใหม่เมือง

ลูกผู้ชายกลับบ้าน ได้เห็นแค่หางตุงไจปลิวไหวก็ใจดีแล้ว

ถึงบ้านแล้วไม่มีที่ไหนอีกแล้ว นอกจากล้านนาบ้านเฮาที่จะมีตุงไจปลิวไหวไกวลม

ได้ยินพ่อน้อยว่าอย่างนี้จึงเข้าใจ สว่างไสวอะไรอีกตั้งมากมาย ตุงไจผืนหนึ่ง คุณค่าไม่ได้อยู่ที่เอาไว้ใช้สอยในปอยหลวงเท่านั้น ยังมีคุณค่าแฝงเร้นอย่างอื่นอยู่ด้วย

เราใช้มาตรฐานของเราเข้าจับ แล้วด่วนสรุปเกินไป เราเองต่างหากที่คับแคบ…


                  มาลา คำจัน

จากคอลัมน์ ของดีใกล้ตัว หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์พลเมืองเหนือปีที่2 ฉบับที่ 16 ประจำวันที่ 4-10 กุมภาพันธ์ 2545

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น